การยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กโดยใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV ด้วยกระบวนการ G-PICES

          โรงเรียนขนาดเล็กในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 ต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการศึกษา โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนครูผู้สอนที่ไม่ครบชั้นและไม่ตรงตามกลุ่มสาระ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการศึกษาของผู้เรียน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบและยั่งยืน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 จึงได้พัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการที่เป็นเลิศภายใต้ชื่อ “การยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กโดยใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV ด้วยกระบวนการ G-PICES” นวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนและส่งเสริมให้โรงเรียนขนาดเล็กสามารถใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับนักเรียนทุกคน


1. ปัญหาและความท้าทายก่อนการพัฒนา

ก่อนที่จะมีการนำนวัตกรรม G-PICES มาใช้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 และโรงเรียนขนาดเล็กในสังกัด ได้เผชิญกับความท้าทายรอบด้านซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ดังนี้
-ปัญหาด้านครูผู้สอน
– โรงเรียนขนาดเล็กมีปัญหาครูไม่ครบชั้นและไม่ครบตามกลุ่มสาระ
– ครูต้องสอนในรายวิชาที่ตนเองไม่ถนัด ส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
– ครูมีภาระงานอื่นนอกเหนือจากงานสอน รวมถึงการไปประชุมหรืออบรม ทำให้ไม่มีผู้สอนในบางครั้ง
– ปัญหาด้านการใช้เทคโนโลยี DLTV
– ครูและผู้บริหารยังใช้ DLTV ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยมักจะใช้เฉพาะในวิชาที่ตนเองไม่ถนัด หรือใช้เมื่อครูประจำชั้นไม่สามารถมาสอนได้
– อุปกรณ์จัดการเรียนการสอนมีไม่เพียงพอและมีสภาพเสื่อมโทรม เช่น โทรทัศน์เสียงแตกพร่า เครื่องรับสัญญาณรุ่นเก่าทำงานช้าและค้างบ่อยครั้ง
– พบปัญหา “สัญญาณล่ม” บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวน ทำให้บรรยากาศในชั้นเรียนหยุดชะงัก
– ปัญหาด้านความเชื่อมั่น
– ผู้บริหาร ครู และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ขาดความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองที่จะจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ให้เกิดประสิทธิผลได้
– ปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
– ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในภาพรวมยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดไว้
– ผลการทดสอบระดับชาติ ทั้ง RT, NT และ O-NET ของโรงเรียนที่ใช้ DLTV หลายแห่งยังคงมีคะแนนต่ำกว่าระดับประเทศ

2. G-PICES: นวัตกรรมสู่ความสำเร็จ
เพื่อก้าวข้ามความท้าทายและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 ได้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการขึ้นมาโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อ “กระบวนการ G-PICES
G-PICES คือ กรอบการดำเนินงานที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็กที่ใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) อย่างเป็นระบบและยั่งยืน. หัวใจสำคัญของกระบวนการนี้ คือการบูรณาการแนวคิดที่หลากหลายเข้ามาใช้ ตั้งแต่การปรับทัศนคติ (Growth Mindset), การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC), ไปจนถึงการจัดการความรู้ (KM) เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบโดย G-PICES ประกอบด้วยกระบวนการขับเคลื่อน 6 ขั้นตอน ดังนี้:
– Growth mindset: เปลี่ยนอุปสรรคเป็นความท้าทาย
– Plan: วางแผนสู่ความสำเร็จ
– Implement: สะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณ (การลงมือปฏิบัติและขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ)
– Check: ติดตามการดำเนินงาน
– Evaluate: ประเมินผล
– Show and Share: เผยแพร่ผลงาน
กระบวนการที่มีโครงสร้างชัดเจนนี้ ได้กลายเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้โรงเรียนสามารถนำ DLTV ไปใช้แก้ปัญหาการขาดแคลนครูและยกระดับคุณภาพผู้เรียนได้อย่างแท้จริง
กระบวนการ G – PICES

3. เจาะลึก 6 ขั้นตอนของ G-PICES
กระบวนการ G-PICES คือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง โดยแต่ละขั้นตอนถูกออกแบบมาให้ส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างเป็นระบบ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: Growth Mindset (เปลี่ยนอุปสรรคเป็นความท้าทาย)
จุดเริ่มต้นของการพัฒนาคือการปรับเปลี่ยนกรอบความคิด. สพป.เชียงใหม่ เขต 4 ได้จัดประชุมโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยนำเสนอตัวอย่างโรงเรียนที่มีวิธีปฏิบัติเป็นเลิศในการใช้ DLTV ทั้งในและนอกเขตพื้นที่มาถอดบทเรียนความสำเร็จ. จากนั้นแต่ละโรงเรียนได้วิเคราะห์ศักยภาพและบริบทของตนเอง เพื่อร่วมกันตั้งเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนผ่าน DLTV , ซึ่งนำไปสู่การประกาศเป็นนโยบายของเขตพื้นที่การศึกษาในที่สุด
ขั้นตอนที่ 2: Plan (วางแผนสู่ความสำเร็จ)
เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ทุกฝ่ายได้ร่วมกันวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ. หัวใจของแผนคือ “ยุทธศาสตร์ 4-5-6” ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับทุกฝ่าย:
– 4 ข้อพื้นฐาน สำหรับโรงเรียน (สภาพแวดล้อม, อุปกรณ์, บทบาทครู, การมีส่วนร่วมของนักเรียน)
– 5 ข้อสำหรับผู้บริหาร (การวางแผน, การสนับสนุน, การจัดหาอุปกรณ์, การนิเทศ)
– 6 ข้อสำหรับครูผู้สอน (การเตรียมห้องเรียน, การเตรียมการสอน, การสอนร่วมกับครูต้นทาง, การสรุปบทเรียน, การวัดผล, การสอนซ่อมเสริม) 
นอกจากนี้ยังมีการวางแผนการนิเทศติดตาม และแผนการจัดกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อพัฒนาการสอนอย่างต่อเนื่อง
ขั้นตอนที่ 3: Implement (ขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ)
ขั้นตอนนี้คือการนำแผนไปสู่การปฏิบัติจริง. ครูและบุคลากรในโรงเรียนขนาดเล็กได้จัดการเรียนการสอนโดยใช้ยุทธศาสตร์ 4-5-6 เป็นแนวทาง. ขณะเดียวกัน เขตพื้นที่ฯ ได้ให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิด โดยมีศึกษานิเทศก์เข้าร่วมวง PLC ของโรงเรียนเป็นประจำทุกเดือนเพื่อร่วมพัฒนาการจัดการเรียนรู้. นอกจากนี้ยังได้จัดตั้ง “คลินิก DLTV” ทั้งในรูปแบบออนไลน์ (LINE Group) และที่สำนักงานเขต เพื่อให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาด้านอุปกรณ์และสื่อการสอนอย่างทันท่วงที
ขั้นตอนที่ 4: Check (ติดตามการดำเนินงาน)
เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนและมีประสิทธิภาพ ได้มีการติดตามอย่างเป็นระบบ. คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารและศึกษานิเทศก์ได้ลงพื้นที่เพื่อนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนของครูภาคเรียนละ 1 ครั้ง การลงพื้นที่นี้ไม่เพียงเพื่อประเมินผล แต่ยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นให้กับโรงเรียน
ขั้นตอนที่ 5: Evaluate (ประเมินผล)
เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินงาน จะมีการประเมินผลอย่างรอบด้านโดยคณะกรรมการ. การประเมินครอบคลุมทั้งด้านปัจจัยพื้นฐาน, การบริหารจัดการ, การจัดการเรียนรู้ และที่สำคัญที่สุดคือด้านคุณภาพผู้เรียน. ผลที่ได้จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่แต่ละโรงเรียนได้ตั้งไว้ เพื่อร่วมกันถอดบทเรียนความสำเร็จ ค้นหาปัญหา อุปสรรค และหาแนวทางการพัฒนาเพื่อนำไปใช้วางแผนการขับเคลื่อนในปีต่อไป
ขั้นตอนที่ 6: Show and Share (เผยแพร่ผลงาน)
ความสำเร็จและองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานจะถูกนำมาแบ่งปันและขยายผลในวงกว้าง. สพป.เชียงใหม่ เขต 4 ได้จัดเวทีในรูปแบบนิทรรศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ เพื่อให้โรงเรียนต่างๆ ได้นำเสนอแนวปฏิบัติที่ดี (Good Practice) ของตนเอง. นอกจากนี้ องค์ความรู้ทั้งหมดจะถูกรวบรวมและจัดทำเป็นคลังความรู้ (Knowledge Management) เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เพจของสำนักงานเขต เพื่อให้โรงเรียนอื่นและผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ต่อไปได้

การประชุม ร่วมวางแผนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาในการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV
และเพื่อวางแผนขับเคลื่อนงานการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV โรงเรียนในสังกัด โดยผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
การประชุมร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษา ครู โรงเรียนขนาดเล็กที่จัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV เพื่อหาแนวทางในการยกระดับคุณภาพการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV)
ศึกษานิเทศก์ ร่วมนิเทศ ติดตาม การบริหารจัดการและการขับเคลื่อนจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV และการจัดการเรียนการสอนของครู นักเรียน โรงเรียนในสังกัด
ศึกษานิเทศก์และครูผู้สอน ร่วมกันวางแผนการจัดการเรียนรู้ สะท้อนปัญหาและแนวทางการขับเคลื่อน และวิเคราะห์ความต้องการพัฒนาและวางแนวทางการใช้สื่อ DLTV ควบคู่กับกิจกรรมในชั้นเรียน
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนโดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV ในชั้นเรียนของครู และนักเรียน


4. ผลลัพธ์แห่งความภาคภูมิใจ

ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินงานตามกระบวนการ G-PICES ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าภาคภูมิใจและเป็นที่ประจักษ์ในทุกมิติ ทั้งในเชิงคุณภาพที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงในห้องเรียน และเชิงปริมาณที่วัดผลได้จากผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
ผลเชิงคุณภาพ: การเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้
• 
โรงเรียนจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ: โรงเรียนขนาดเล็กในสังกัด 100% เข้าร่วมโครงการและสามารถจัดการเรียนการสอนผ่าน DLTV ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ยุทธศาสตร์ 4-5-6 ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 4 และ 5 (ระดับดีและดีเยี่ยม)
• 
ครูมีความสุขและมั่นใจ: ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่ดีในการสอน. พวกเขามีขวัญและกำลังใจในการทำงานมากขึ้นเมื่อเห็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของนักเรียน
• 
นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข: นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ผ่าน DLTV ด้วยตนเอง. พวกเขามีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ไปพร้อมกับโรงเรียนต้นทางอย่างสม่ำเสมอ

ผลเชิงปริมาณ: ตัวเลขสะท้อนความสำเร็จ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน:
• 
RT และ NT สูงกว่าระดับประเทศ: มีโรงเรียนจำนวนถึง 7 แห่ง ที่มีผลการทดสอบความสามารถด้านการอ่าน (RT) และความสามารถพื้นฐานระดับชาติ (NT) สูงกว่าระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน (ปีการศึกษา 2565-2567) ได้แก่ โรงเรียนวัดพระเจ้าเหลื่อม, โรงเรียนบ้านแสนตอ, โรงเรียนบ้านพันตน, โรงเรียนวัดหนองหลั้ว, โรงเรียนวัดศรีดอนชัย, โรงเรียนบ้านหัวข่วง และโรงเรียนวัดดอนชื่น
• 
O-NET มีแนวโน้มดีขึ้น: ผลการทดสอบ O-NET ในภาพรวมมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะวิชาภาษาไทยที่ไม่มีโรงเรียนใดมีผลคะแนนลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีโรงเรียนที่คะแนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์

เรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ: จากห้องเรียน DLTV สู่โอกาสระดับประเทศ
ผลลัพธ์ที่ทรงพลังและสะท้อนความสำเร็จของโครงการได้ดีที่สุด คือเรื่องราวของ
เด็กชายภควัต ปันใจดี (น้องนนท์) นักเรียนจากโรงเรียนบ้านไร่. การเข้าถึงการเรียนการสอนที่มีคุณภาพผ่าน DLTV เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้น้องนนท์มีผลการเรียนที่ยอดเยี่ยม (เกรดเฉลี่ย 3.92) และได้พัฒนาความสามารถพิเศษด้านศิลปะจนได้รับรางวัลระดับเหรียญเงินในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ
ด้วยความสามารถและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ได้รับการหล่อหลอมจากกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ทำให้น้องนนท์ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้รับ
“ทุนการศึกษามูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์” ซึ่งเป็นทุนการศึกษาต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี. เรื่องราวของน้องนนท์คือบทพิสูจน์ว่า การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพผ่าน DLTV สามารถสร้างโอกาสและเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กนักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็กได้อย่างแท้จริง

5. ปัจจัยสู่ความสำเร็จ (Key Success Factors)
ความสำเร็จของโครงการไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากการทำงานอย่างหนักและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยมีปัจจัยสำคัญ 4 ประการที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
1. ภาวะผู้นำที่เข้มแข็ง (Strong Leadership)
• ผู้บริหารของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีนโยบายที่ชัดเจนและมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก
• มีการสนับสนุนอย่างจริงจัง ทั้งในด้านการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง และการสร้างระบบสนับสนุนที่ครอบคลุม เช่น การจัดตั้งคลินิก DLTV และกลุ่ม LINE เพื่อให้คำปรึกษา
• ผู้บริหารโรงเรียนมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการใช้เทคโนโลยี DLTV และวางแผนบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ
2. การพัฒนาครูและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง (Continuous Teacher and Staff Development)
• จุดเริ่มต้นที่สำคัญคือการสร้าง Growth Mindset ให้กับครูผู้สอน ทำให้เกิดความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการสอน
• ครูได้รับการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยี DLTV และการบูรณาการเข้ากับการสอนอย่างสม่ำเสมอ
• มีการส่งเสริมให้ครูมีทักษะในการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของผู้เรียน
• ทีมศึกษานิเทศก์มีความเชี่ยวชาญและทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง (Mentor) ในกระบวนการ PLC ของโรงเรียน ให้คำปรึกษาและสนับสนุนอย่างใกล้ชิด
3. กระบวนการบริหารจัดการที่เป็นระบบ (A Systematic Management Process)
• การมี 
”กระบวนการ G-PICES” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่มีขั้นตอนการทำงานที่เป็นระบบและชัดเจน ตั้งแต่ขั้น Growth Mindset ไปจนถึง Show and Share ทำให้ทุกฝ่ายทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
• กระบวนการนี้มีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอน ทำให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาการทำงานได้อย่างสม่ำเสมอตามผลที่เกิดขึ้นจริง
4. เครือข่ายและการมีส่วนร่วม (Networking and Participation)
• ความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ตั้งแต่ครูและบุคลากรในโรงเรียน ชุมชนและผู้ปกครองที่ให้การสนับสนุน ไปจนถึงนักเรียนที่ปรับตัวและมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้รูปแบบใหม่
• มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เช่น การทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับวิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยอาชีวศึกษาในพื้นที่เพื่อช่วยดูแลและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ รวมถึงการสนับสนุนจากองค์กรภาคเอกชนและมูลนิธิต่างๆ

6. ดาวน์โหลดและติดต่อ
o สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลฉบับเต็ม สามารถดาวน์โหลดรายงานผลการดำเนินงานได้ที่นี่

053-311351 ต่อ 25

svcmi44444@gmail.com